337 จำนวนผู้เข้าชม |
ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวในโอกาสแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ "ลำนำศิลป์ พื้นถิ่นไทย" ว่ากองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ให้ความสำคัญกับศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน ซึ่งรวมถึงดนตรีพื้นบ้าน และการละเล่นท้องถิ่นในภูมิภาคต่างๆ ถือเป็นต้นทุนและมรดกทางวัฒนธรรมของไทยที่เป็นจุดแข็งที่สามารถนำมาต่อยอดสร้างผลกระทบได้ทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจ สร้างสิ่งที่เป็นคุณค่าและมูลค่าได้ ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกองทุนที่ต้องการสร้างให้เกิดสื่อดีๆ สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยการจัดเวทีในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างบรรยากาศให้มีการส่งผ่านมรดกทางวัฒนธรรมพื้นบ้านจากศิลปินที่อาจเป็นคนรุ่นเก่าไปสู่คนรุ่นใหม่
ผู้จัดการกองทุนกล่าวย้ำว่า กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ มีวัตถุประสงค์ 5 ยุทธศาสตร์ 6 สร้าง ประกอบด้วย
1. สร้างสื่อ ทำให้มีสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์มากขึ้น การแสดงออกทางศิลปวัฒนะธรรมพื้นบ้าน ก็เป็นหนึ่งในสื่อที่กองทุนต้องการสนับสนุน
2. สร้างคน เริ่มต้นด้วยการประกวด ซึ่งมุ่งเป้าที่คนรุ่นใหม่ เพราะต้องการให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างผู้เกี่ยวข้องหลายๆ ฝ่าย เช่น ถ้าน้อง ๆ เยาวชนสนใจโครงการนี้ พวกเขาจะต้องวิ่งไปหาศิลปินต้นแบบ เช่น ภาคใต้ ไปหาหนังตะลุง มโนราห์ ภาคกลาง ลำตัด ฉ่อย ภาคเหนือ ไปปรึกษาครูด้านสะล้อซอซึง ภาคอีสาน เป็นครูหมอลำ หรือการแสดงพื้นถิ่นของภาคอีสาน เพราะฉะนั้นเป็นการเชื่อมโยงการทำงานร่วมกันของคนรุ่นใหม่ไปถึงศิลปินต้นแบบ
3. สร้างภูมิคุ้มกัน ให้คนสามารถรับสื่ออย่างมีสติ ได้ใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ ไม่เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสื่อให้เป็นมลภาวะกับสังคม หรือการระรานกันในโลกออนไลน์
4. สร้างองค์ความรู้ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ให้ความสำคัญในการศึกษาวิจัยการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ
5. สร้างเครือข่าย สร้างการมีส่วนร่วม ส่งเสริมสนับสนุนให้ภาคส่วนต่าง ๆ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ได้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สื่อให้มีประโยชน์
6. สร้างองค์กรที่เป็นองค์กรต้นแบบ หากพูดถึงกองทุนสื่อให้คนนึกถึงผลงานดี ๆ เป็นองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือ และพร้อมจะเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่
โครงการกิจกรรมส่งเสริมการผลิตสื่อสร้างสรรค์ ผ่านดนตรี และศิลปะการแสดงพื้นบ้าน ภายใต้หัวข้อ “ศิลปินพื้นบ้านส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม ภายใต้ชีวิตวิถีใหม่” นี้ จึงถือเป็นการเริ่มต้นที่กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ต้องการเห็นเดินไปสู่เป้าหมายดังกล่าว ซึ่งในอนาคตกองทุนคาดหวังว่า นอกจากผลงานที่ปรากฏแล้ว ยังจะเกิดความร่วมมือระหว่างศิลปินพื้นบ้านต้นแบบ นักดนตรีพื้นบ้านต้นแบบ และคนรุ่นใหม่ที่อยากจะเข้าไปสัมผัสเรียนรู้ต้องการเห็นการทำงานร่วมกัน
“ในอนาคตเราอยากเห็นตลาดนัดการแสดงศิลปวัฒนธรรม ทำให้คนที่อาจจะไม่เคยสนใจในมรดกทางวัฒนธรรมของไทยหันกลับมาใส่ใจ เป็นความงดงามที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ ไม่เพียงเป็นการอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมการแสดงพื้นบ้านเพียงอย่างเดียว หากแต่จะเป็นการสร้างคุณค่า ส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่งเสริมการเรียนรู้ใหม่ ๆ สร้างความผูกพันธ์ ความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนต่างวัยที่จะเกิดขึ้นจากการทำงานผ่านงานศิลปะมาเป็นเครื่องมือ เป็นโอกาสสำคัญในการเรียนรู้ สืบสาน ต่อยอด สิ่งที่เป็นศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้าน ”
อาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านศิลปะ และวัฒนธรรม ในคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา ซึ่งเป็นองค์ปาฐกในงานกล่าวว่า ประเทศไทยมีสิ่งที่ต้องตระหนักสิ่งคือ เรื่องของ ‘3 ภูมิ’ ประกอบด้วย หนึ่งภูมิศาสตร์ ที่เป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ และความอุดมสมบูรณ์ มีของดีมากมายที่ทั่วโลกพูดถึง สองภูมิวัฒนธรรมและวิถีชีวิต ภูมิภาษาและปัญญาแผ่นดิน และภูมิศิลปะต่างๆ และสามคือภูมิน้ำใจ ที่เป็นจุดแข็งที่สามารถผลักดันให้โลกเกิดสันติสุขได้ "หากพวกเราร่วมมือร่วมใจกันในการผลักดันให้ศิลปินได้สร้างสรรค์ผลงานต่อไปให้ครบวงจรทั้ง 3 ภูมิ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถสร้างพลังทางวัฒนธรรม หรือ Soft Power ให้กับประเทศไทยได้"
สำหรับเงื่อนไขและกติกาการส่งผลงานเข้าประกวด ในข้อสำคัญ คือ การถ่ายทอดแง่มุมความสวยงามของอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม มีความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนอมุมมอง ซึ่งคลิปวีดีโอที่ส่งเข้าประกวด ต้องนำเสนอประวัติ และตัวตนของศิลปินพื้นบ้าน เพื่อการอนุรักษ์ สืบสาน และต่อยอดศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้าน ที่สอดคล้องกับหัวข้อโครงการ คือ ลำนำศิลป์ พื้นถิ่นไทย หรือ THE MELODY OF FOLK ART ความยาวของผลงานที่ส่งเข้าประกวดอยู่ระหว่าง 10 - 15 นาที นอกจากนั้นผลงานที่ส่งเข้าประกวดต้องคำนึงถึงการไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ต่าง ๆ ทั้ง ภาพ เสียง เอฟเฟค รวมถึงไม่ใช้ผลงานที่ทำซ้ำ ดัดแปลง ไม่เคยเผยแพร่ หรือเคยได้รับรางวัล หรือถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ นอกจากการส่งเข้าประกวดในครั้งนี้
เปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้ ถึง 19 มกราคม 2566 และสิ้นสุดรับผลงาน 9 กุมภาพันธ์ 2566 โดยทางกรรมการจะใช้เวลา พิจารณาคัดเลือกก่อนประกาศผลในเดือนมีนาคม 2566 สำหรับผู้ที่ส่งผลงานเข้าประกวดและผ่านการคัดเลือกจะได้รับรางวัลพร้อมโล่รางวัลจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ รวมมูลค่ากว่า 250,000 บาท แบ่งเป็น
รางวัลชนะเลิศ จำนวน 1 รางวัลๆ ละ 50,000 บาท
รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง มี 1 รางวัลๆ ละ 40,000 บาท
รองชนะเลิศอันดับสอง มี 2 รางวัลๆ ละ 30,000 บาท
รางวัลชมเชย จำนวน 4 รางวัลๆ ละ 10,000 บาท
และป๊อบปูล่าโหวต อีก 2 รางวัลๆ ละ 30,000 บาท
ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ผ่าน LINE ID
: @ThemelodyoffoIkart และสามารถติดตามข่าวสารโครงการฯ ได้ที่ Facebook : ลำนำศิลป์ พื้นถิ่นไทย (https://www.facebook.com/TheMelodyofFolkArt )