278 จำนวนผู้เข้าชม |
( 24 กุมภาพันธ์ 2567 : อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ) เพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย(รัชกาลที่ 2) พระอัจฉริยะอัครศิลปินสยาม เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพครบ 257 ปี และ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปในเขตจังหวัดสมุทรสงคราม และพื้นที่ใกล้เคียง ให้เกิดความรักในการสืบสานศิลปวัฒนธรรม และ ประเพณีของไทยในสมัยโบราณ จวบจนมาถึงในยุคสมัยปัจจุบัน และเพื่อส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมการสร้างสุขภาพของจิตใจให้แข็งแรง เพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน ในระดับชุมชน และ ระดับจังหวัด, เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไปได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดความรักใคร่ สามัคคีกลมเกลียวกันในชุมชน และจังหวัดใกล้เคียง และเพื่อประชาสัมพันธ์ศิลปวัฒนธรรมที่เกี่ยวเนื่องกับดนตรีไทย และการแสดงต่างๆอันเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น และ เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นสร้างชื่อของจังหวัดสมุทรสงคราม และจังหวัดใกล้เคียง ให้เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายมากยิ่งขึ้น
โดยมูลนิธิหนึ่งน้ำใจ ร่วมกับจังหวัดสมุทรสงคราม และอุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ชวนนุ่งโจง ห่มสไบ แต่งไทย เที่ยวชมงาน “กวี คีตา อัมพวาเฟส” ซึ่งเป็นครั้งแรกของการจัดงาน Cultural Carbon Neutral Event เป็นการจัดงานในรูปแบบงานวัฒนธรรม ที่ทำให้การปล่อยคาร์บอนสุทธิเท่ากับศูนย์ หรือ เรียกสั้นๆ ว่าการจัดงานวัฒนธรรมแบบปลอดคาร์บอน ซึ่งการจัดงานแบบ Carbon Neutral มีส่วนช่วยในการบรรเทาปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ สร้างอนาคตที่ยั่งยืน
ในพิธีเปิดงาน ได้รับเกียรติจาก คุณนายวิชัย ทองแตง ประธานมูลนิธิหนึ่งน้ำใจ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และ นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา ผู้ว่าราชการ จังหวัดสมุทรสงคราม ,คุณกรกันต์ สุทธิโกเศศ, คุณทวีศักดิ์ อัครวงษ์, และองค์กรหน่วยงานส่วนต่างๆของจังหวัดสมุทรสงคราม มาร่วมในพิธีเปิดงาน
เปิดงานโดย วงมหาดุริยางค์ และ รำอาเศียรวาท เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่2 ครบ257 ปี ,การแสดงโชว์ประชันดนตรีไทย โดย คุณกรกันต์ สุทธิโกเศศ (อาร์ม) และ คุณทวีศักดิ์ อัครวงษ์ ( เบิ่ง ) ครูระนาดเอกผู้มากฝีมือ , การประชันปี่พาทย์ ลุ่มน้ำแม่กลอง, คอนเสิร์ตร่วมสมัย วงไทโฮม ,คอนเสิร์ตเพลงเอก อัมพวา
กิจกรรมในงานแบ่งออกเป็น 4 โซนด้วยกัน แต่ละโซนมีกิจกรรมความสนุกสนาน รื่นเริง บันเทิงใจ มหัศจรรย์ไปกับ แสง สี เสียง สวยงามสุดตระการตา จัดเต็มตลอดทั้ง 2วัน ประกอบไปด้วย
-โซนที่1 “ เรือนอาวุธสร้าง ” โซนนี้ เป็นโซนสอนการทำขนมไทย , สอนการเล่นดนตรีไทย, สอนศิลปวัฒนธรรมไทย , สอนศิลปะระบายสีหัวโขน และพบกับคลาสพิเศษ!! เรียนรู้ดนตรีไทยไปกับครูเบิ่ง ( ทวีศักดิ์ อัครวงษ์ ) ครูผู้สอน ที่เคยบรรเลงระนาดเอกถวายงานในหลวงรัชกาลที่๙ และวงดนตรีจากมูลนิธิหลวงประดิษฐไพเราะ
-โซนที่2 “ ตลาดนัด อุทยาน ร.2 ” เป็นโซนที่จะชวนนักท่องเที่ยว มาเดินชมตลาด จับจ่ายใช้สอย อิ่มอร่อยไปกับอาหารคาวหวาน หลากหลายชนิด พบกับการออกร้านจำหน่ายสินค้าโอทอป ขึ้นชื่อของเด็ดเมืองอัมพวา / เครื่องดื่ม / ของกิน / ของใช้ ของดีประจำจังหวัดสมุทรสงคราม
-โซนที่ 3 “ เรือนฤทัยสรรค์ ” ตื่นตาตื่นใจไปกับนิทรรศการเทิดพระเกียรติรัชกาลที่ 2 ชมนิทรรศการ AMAZING อัมพวา งานแสดงหัวโขน- รามเกียรติ์ ที่หาชมได้ยาก ,งานแกะสลักกะโหลกซอ ,มะพร้าวซอ , งานปักสะดึงกรึงไหม / เครื่องแขวน / น้ำอบน้ำปรุง , งานแสดงการสานหมวกไห่หนำโล้ย ( เป็นการแสดงงานศิลปหัตถกรรม กับการสานหมวกไห่หนำโล้ยหนึ่งเดียวของสมุทรสงคราม โดย ปราชญ์ชุมชน ป้าบุบผา อั้นจินดา ) ,ชมการแต่งองค์ทรงเครื่อง โขน – รามเกียรติ์ โชว์ออกมาในรูปแบบศิลปะ การแต่งตัว / แต่งหน้า ของโขน-รามเกียรติ์ ตัวพระ/ ตัวนาง / ยักษ์ /ลิง ที่หาชมได้ยาก ,การแสดงหุ่นกระบอก คณะ “ ชูเชิดชำนาญศิลป์” เป็นการแสดงศิลปวัฒนธรรมที่อยู่คู่กับพี่น้องชาวอัมพวามาอย่างยาวนาน โดย ครูวงษ์ รวมสุข นอกจากนี้ ยังมี มัคคุเทศก์น้อย ไกด์เด็กน้อยที่คอยให้ข้อมูลรายละเอียดนักท่องเที่ยว ที่มาเที่ยวชมงาน
-โซนที่ 4 “ โรงละครกลางแจ้ง ” โซนนี้ เป็นโซนการแสดงศิลปวัฒนธรรม ประเพณีไทย และกิจกรรมต่างๆบนเวทีมากมาย และอิ่มเอมใจไปกับเสียงเพลงสุดไพเราะกับคอนเสิร์ตสุดพิเศษจากทีมศิลปินเพลงเอก นำโดย ธัช กิตติธัช , แบ๋ม สิริรัตน์ ,หลุยส์ สรวิชญ์ ,แบ็งค์ เฉลิมรัฐ , โบ๊ท ปรัชญา และ หลิน วลัญจ์รัช และ การแสดงจากวงดนตรีไทยร่วมสมัย งานนี้เข้าชมฟรีตลอดงาน!!
โดยคุณวิชัย ทองแตง ประธานมูลนิธิหนึ่งน้ำใจ กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า “จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นจังหวัดที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดใน ประเทศไทย หากมีความสำคัญมาแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา ในฐานะเป็น แหล่งผลิตพืชผลการเกษตรขนาดใหญ่ในภาคกลาง โดยมีทั้ง ข้าว น้ำตาล ผัก ปลา เสมือนเป็นคลังของพระนคร อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานในหลายด้าน ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ ผู้คนที่หลากหลายชาติพันธุ์ การสัญจรทางน้ำที่เชื่อมโยงการเดินทางที่สะดวกสบาย ทำให้สมุทรสงคราม เป็นเมืองแห่งการผลิต เมืองแห่งการเรียนรู้ และเมืองแห่งการสืบทอด ส่งต่อวิถีวัฒนธรรม ก่อนวิกฤตของโรคระบาดสายพันธุ์ใหม่ อัมพวา หนึ่งในสามอำเภอของจังหวัดที่เล็กที่สุดของประเทศ มีชื่อเสียงในด้านการท่องเที่ยวในระดับนานาชาติ สิ่งที่เราได้รับมิใช่เพียงความตื่นตัวในจังหวัด แต่หากคือความมั่นคั่งเศรษฐกิจของประเทศ ที่เราชาวสมุทรสงครามภาคภูมิใจที่เป็นส่วนร่วม เมื่อวิกฤติโรคระบาดคลี่คลาย วิถีการดำเนินชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไป คงถึงเวลาที่เราจะสื่อสารถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ว่าเราพร้อมแล้วที่จะต้อนรับทุกๆท่านให้กลับมาเยือนเมืองนี้อีกครั้ง เริ่มด้วยความงดงามของบทกวี ความไพเราะของดนตรี การแสดงที่น่าชื่นใจโดยลูกหลานอัมพวาทุกช่วงวัย เพื่อย้ำให้เห็นว่า สิ่งที่ดีงาม อัตลักษณ์ของลุ่มน้ำแม่กลอง มรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า ยังคงอยู่ไม่จางลงแม้จะผ่านกาลเวลากี่ยุคกี่สมัย “กวี คีตา อัมพวาเฟส” ประตูบานนี้ได้เปิดขึ้นอีกครั้ง ขอเชิญ ทุกท่านก็กลับมาซาบซึ้ง สนุกสนาน ภาคภูมิใจ ในบ้านของเราทุกคนอีกครั้งครับ ”