NIA จับมือ 3 ภาคี เปิดเวที Thailand Innovation Hub ปั้นสตาร์ตอัปไทยสู่เวทีโลก

NIA จับมือ 3 ภาคี เปิดเวที Thailand Innovation Hub ปั้นสตาร์ตอัปไทยสู่เวทีโลก รวมพลังเครือข่ายนวัตกรรมภาคการศึกษา อุตสาหกรรม และสมาคมเฮลท์เทค
พร้อมเปิดรับสมัครทั่วประเทศ ภายในกันยายนนี้

กรุงเทพฯ – 28 สิงหาคม 2568 – สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ผนึกกำลัง 3 ภาคีหลัก ได้แก่ ภาควิชาการ ภาคอุตสาหกรรม และสมาคมเฮลท์เทค เปิดเวทีเสวนาพิเศษในงาน “Thailand Innovation Hub” ปูทางสตาร์ตอัปไทยสู่ตลาดโลก พร้อมประกาศเปิดรับสมัคร 2 โปรแกรมสำคัญ ได้แก่ Incubation Program สำหรับการบ่มเพาะ และ Sandbox Program สำหรับการทดสอบตลาดจริง เปิดรับสมัครแล้วทั่วประเทศภายในเดือนกันยายนนี้

การเสวนาพิเศษครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อแบ่งปันวิสัยทัศน์และกลยุทธ์การขับเคลื่อนนวัตกรรมไทย โดยมีผู้แทนจาก 3 ภาคีร่วมแสดงมุมมอง ได้แก่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้, สมาคมเฮลท์เทคไทย, และมหาวิทยาลัยบูรพา โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการสร้างระบบนิเวศที่เชื่อมโยงนวัตกรรมตั้งแต่การบ่มเพาะ จนถึงการทดสอบตลาดจริงและขยายสู่ระดับโลก
• ภาคเกษตรและอาหาร – จากครัวไทยสู่ครัวโลก
ผศ.ดร.นภัทร เรืองนภากุล ผู้จัดการย่านนวัตกรรมเกษตรและอาหาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า ประเทศไทยมีศักยภาพสูงในด้านอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร โดยเฉพาะการต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่ตลาดสากล พร้อมยกตัวอย่าง Mocha Energy Bar ที่ใช้วัตถุดิบไทยกว่า 95% และผลิตภัณฑ์เกษตรปลอดภัยที่พัฒนาด้วยนาโนเทคโนโลยี (In Seed) ซึ่งตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่

“เราไม่ได้ทำเพียงอาหาร แต่เรากำลังสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมเกษตรที่ทำให้เกษตรกร สตาร์ตอัปและอุตสาหกรรมเติบโตไปด้วยกัน เป้าหมายคือการยกระดับประเทศไทยจากผู้ผลิตวัตถุดิบ สู่การเป็นผู้สร้างมูลค่าเพิ่มและแบรนด์ระดับโลก” ดร.นภัทรกล่าว

• ภาคเฮลท์เทค – โอกาสใหญ่จากสังคมสูงวัย
คุณพงษ์ชัย เพชรสังหาร นายกสมาคมเฮลท์เทคไทย ชี้ว่าประเทศไทยกำลังเผชิญความท้าทายจากสังคมสูงวัย โดยในปี 2574 ประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปจะมีสัดส่วนถึง 30% ของประชากรทั้งหมด ทำให้ธุรกิจด้านสุขภาพและเทคโนโลยีการแพทย์เป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูง

“สมาคมเฮลท์เทคทำงานร่วมกับ NIA ในการผลักดันสตาร์ตอัปตั้งแต่ Idea Stage จนถึง Global Stage ผ่านการบ่มเพาะ การเชื่อมโยงนักลงทุน และการสร้างโอกาสสู่ตลาดโลก ปัญหาสำคัญที่ต้องแก้ไขคือการเชื่อมโยงเครือข่าย การลงทุน และการอยู่รอดของสตาร์ตอัป ซึ่ง NIA และพันธมิตรพร้อมเข้ามาช่วย”
นอกจากนี้ คุณพงษ์ชัยได้ยกตัวอย่างโครงการสำคัญ เช่น AI อ่านฟิล์มเอกซเรย์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลอนุญาตให้ AI เข้าสู่การแพทย์เชิงพาณิชย์ รวมถึงการใช้ VR เพื่อดูแลผู้ป่วยเบาหวาน ที่สะท้อนการยกระดับนวัตกรรมสุขภาพไทยให้ทัดเทียมสากล

• ภาคอุตสาหกรรม – ยกระดับไทยสู่ Industry 4.0
ดร.ทนงศักดิ์ เทพสนธิ ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวันออก มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวถึงความสำคัญของ Smart Electronics, AI และ IoT ในการยกระดับอุตสาหกรรมไทยสู่ Industry 4.0

“ถ้าไทยยังหยุดอยู่ที่ Industry 2.0 หรือ 3.0 เราจะเสียความสามารถในการแข่งขัน แต่ AI และ IoT เปิดโอกาสให้ไทย กระโดดข้ามขั้น และก้าวสู่การเป็นผู้สร้างเทคโนโลยี ไม่ใช่แค่ผู้รับจ้างผลิต (OEM)”

และยังแนะนำ EEC Automation Park ในฐานะโชว์รูมเทคโนโลยีอุตสาหกรรมไทย พร้อม Acceleration Program สำหรับ AI และ IoT ที่ช่วยให้สตาร์ตอัปสามารถ ทดสอบจริงกับตลาดจริง ในพื้นที่ EEC

“เราจะช่วยให้สตาร์ตอัปเห็นว่านวัตกรรมไทยสามารถใช้ได้จริงในอุตสาหกรรม เพื่อยกระดับขีดความสามารถของประเทศ” ดร.ทนงศักดิ์กล่าวเสริม

NIA เปิดรับสมัคร 2 โปรแกรมใหญ่ทั่วประเทศ
คุณปริวรรต วงษ์สำราญ รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม NIA ปิดท้ายว่า “การทำธุรกิจย่อมมีความเสี่ยง แต่ NIA มีโปรแกรมที่จะช่วยลดความเสี่ยง และสร้าง Fast Track ให้ผู้ประกอบการเติบโตอย่างมั่นคง ทั้งผู้เริ่มต้นใน Incubation Program และผู้ที่ต้องการทดสอบตลาดจริงใน Sandbox Program”

โครงการนี้เปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้ โดยมี 2 กิจกรรมหลัก ได้แก่:
• Incubation Program สำหรับสตาร์ตอัปและผู้ประกอบการที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น (Idea Stage, Prototype Stage)
• Sandbox Program สำหรับผู้ที่มีผลิตภัณฑ์พร้อมทดสอบและต้องการเข้าสู่ตลาดจริง

เปิดรับสมัครทั่วประเทศภายในเดือนกันยายนนี้ ผู้สนใจสามารถสมัครผ่านเว็บไซต์ของ NIA เพื่อร่วมสร้างโอกาสเติบโตจากท้องถิ่นสู่ระดับโลก

สมัครฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
- AgTech / FoodTech ติดต่อ คุณเธียรวนันต์ T. 094-753 6155 | Email: tienwanan.j@nia.or.th
- MedTech & HealthTech ติดต่อ คุณอัจฉราพรรณ T. 088-614 1908 | Email: atcharaphun@nia.or.th
- Industry Tech ติดต่อ คุณเยาวรัตน์ T. 083-388 3226 | Email: yaowarat@nia.or.th